วันพฤหัสบดี, 25 เมษายน 2024 | 11 : 06 am
วันพฤหัสบดี, 25 เมษายน 2024 | 11:06 am

สกสว. พบ สื่อมวลชน ชูภาพอนาคตด้านการวิจัยของประเทศ พลิกโฉมสู่การก้าวสู่ประเทศพัฒนาแล้วในปี 2570

สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) พบ สื่อมวลชน สื่อสาร สร้างความเข้าใจ ต่อบทบาทหน้าที่ และ พันธกิจสำคัญต่อการ ยกระดับศักยภาพและขับเคลื่อนระบบวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ววน.) อย่างมีส่วนร่วม เพื่อส่งมอบคุณค่าทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืนนำไปสู่การผลักดันให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว

วันที่ 27 มกราคม 2566 – สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) จัดกิจกรรมพบปะสื่อมวลชน เพื่อสื่อสารบทบาทหน้าที่ของ สกสว. ภายใต้พันธกิจการส่งเสริม สนับสนุน และขับเคลื่อนระบบวิจัยและนวัตกรรมของประเทศอย่างสหวิทยาการ เพื่อสร้างองค์ความรู้ พัฒนานโยบายสาธารณะและสนับสนุนการนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ในเชิงเศรษฐกิจและสังคม เพื่อให้เกิดการพัฒนาประเทศอย่างสมดุลและยั่งยืน โดยการกำหนดแผนกลยุทธ์องค์กร และ วิสัยทัศน์ ให้ สกสว. “ เป็นองค์กรหลักในการยกระดับศักยภาพและขับเคลื่อนระบบวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ววน.) อย่างมีส่วนร่วม เพื่อส่งมอบคุณค่าทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืนนำไปสู่การผลักดันให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ” เป็นกรอบแนวทางในการนำองค์กรไปสู่องค์กรสมรรถนะสูงในการขับเคลื่อนนโยบายด้าน ววน. และจัดการงบประมาณของกองทุน ววน. ให้เกิดความคุ้มค่าอย่างมีประสิทธิภาพและธรรมาภิบาล

โอกาสนี้ รศ.ดร.ปัทมาวดี  โพชนุกูล ผู้อำนวยการ สกสว. กล่าวว่า.. ปี พ.ศ. 2562 ที่ผ่านมา ประเทศไทยมีการปฏิรูประบบวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมครั้งสำคัญ ทั้งในมิติของการพัฒนาระบบวิจัยและนวัตกรรม และการพัฒนากำลังคนด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม โดยได้มีการจัดตั้งกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) รวมถึงปรับเปลี่ยนบทบาทหน้าที่ ของ “ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย ”  หรือ “ สกว. ” มาเป็น “ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ” เพื่อรับภารกิจสำคัญในการส่งเสริม สนับสนุน และขับเคลื่อนระบบวิจัยและนวัตกรรม (ระบบ ววน.) ของประเทศ ให้ครอบคลุมทุกสาขาการวิจัยและวิทยาการทุกแขนง ตลอดจนสร้างองค์ความรู้พัฒนานโยบายสาธารณะ และสนับสนุนการนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ในเชิงเศรษฐกิจและสังคมเพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยการจัดทำแผนด้าน ววน. เพื่อเป็นเครื่องมือกำหนดเป้าหมายการพัฒนาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมให้สอดคล้องกับเป้าหมายของการพัฒนา “ พลิกโฉมให้ประเทศมีการพัฒนาอย่างรวดเร็วและยั่งยืน ยกระดับความสามารถในการแข่งขันด้วยเศรษฐกิจสร้างคุณค่า และยกระดับคุณภาพชีวิต ก้าวเข้าสู่ประเทศพัฒนาแล้ว และพร้อมสำหรับโลกอนาคต ด้วยวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมไทย โดยการสานพลังหน่วยงานในระบบ ววน. รวมทั้งสถาบันอุดมศึกษา สถาบันวิจัย หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคประชาสังคม ” ซึ่งปัจจุบัน คณะรัฐมนตรี ได้มีการอนุมัติ แผนด้าน ววน. ปี 2566-70 ประกอบด้วย 4 ยุทธศาสตร์ ได้แก่..

ยุทธศาสตร์ที่ 1 การพัฒนาเศรษฐกิจไทยด้วยเศรษฐกิจสร้างคุณค่าและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ให้มี ความสามารถในการแข่งขัน และพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน พร้อมสู่อนาคต โดยใช้วิทยาศาสตร์ การวิจัยและ นวัตกรรม

ยุทธศาสตร์ที่ 2 การยกระดับสังคมและสิ่งแวดล้อม ให้มีการพัฒนาอย่างยั่งยืน สามารถแก้ไขปัญหาท้าทายและปรับตัวได้ทันต่อพลวัตการเปลี่ยนแปลงของโลก โดยใช้วิทยาศาสตร์ การวิจัยและนวัตกรรม

ยุทธศาสตร์ที่ 3 การพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การวิจัยและนวัตกรรมระดับขั้นแนวหน้าที่ ก้าวหน้าล้ำยุค เพื่อสร้างโอกาสใหม่และความพร้อมของประเทศในอนาคต และ

ยุทธศาสตร์ที่ 4 การพัฒนากำลังคนและสถาบันด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ให้เป็นฐานการ ขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศแบบก้าวกระโดดและอย่างยั่งยืน โดยใช้วิทยาศาสตร์ การวิจัยและนวัตกรรม

รวมถึงการบริหารและจัดสรรงบประมาณ ววน. อย่างมีธรรมาภิบาล ภายใต้การกำกับทิศทางของคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กสว.) โดยการจัดทำกรอบงบประมาณด้าน ววน. ของประเทศ ล่าสุดที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบกรอบงบประมาณกองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ปี 2567 จำนวน 31,100 ล้านบาท เพื่อจัดสรรงบประมาณสนับสนุนงานเชิงกลยุทธ์ (Strategic Fund) จำนวนร้อยละ 60-65 ที่ตอบโจทย์ยุทธศาสตร์ของประเทศ ตามแผนด้าน ววน. แก่หน่วยบริหารจัดการทุน (PMU) ทั้ง 9  แห่ง และ งบประมาณเพื่อสนับสนุนงานมูลฐาน (Fundamental Fund) จำนวนร้อยละ 35-40 เพื่อเสริมสร้างศักยภาพของหน่วยงานตามพันธกิจการพัฒนาประเทศ ทั้ง 188 หน่วยงาน ตามที่ สกสว. เสนอผ่านสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ

นอกจากนี้ สกสว. ยังได้พัฒนาระบบติดตามและประเมินผลการสนับสนุน ววน. ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญในหลายภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง รวมถึงจัดทำกลไกและมาตรการเพื่อพัฒนาระบบ ววน. กลไกและมาตรการสำคัญด้านการพัฒนาระบบ ววน. ที่สำคัญ อาทิ การพัฒนาหลักการของมาตรการสนับสนุนทุนสำหรับภาคเอกชน เพื่อพัฒนาผลงานวิจัยและนวัตกรรมตามความต้องการของภาครัฐหรือตามอุปสงค์ของตลาด (Thailand Business Innovation Research, TBIR / Thailand Technology Transfer Research, TTTR) เพื่อเป็นกลไกการให้ทุนไปยังภาคเอกชนโดยอาศัยหลักการของการแข่งขัน (Competitive based) ส่งเสริมให้ได้โครงการที่มีคุณภาพและมีศักยภาพสูง ภายใต้โจทย์ความต้องการจากภาครัฐ หรือภาคเอกชนที่มีตลาดขนาดใหญ่ ให้เกิดผลลัพธ์และผลกระทบสูงต่อประเทศ

ตลอดจนการผลักดันพระราชบัญญัติส่งเสริมการใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยและนวัตกรรม ให้เป็นกฎหมายที่มีความสำคัญเพื่อส่งเสริมให้เกิดการนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ อันจะเป็นประโยชน์ทั้งการต่อยอดการวิจัย และต่อการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมของประเทศในภาพรวม และท้ายสุดแล้ว การจัดแผนและกรอบงบประมาณด้าน ววน. และการพัฒนากลไกในการดำเนินการต่างๆ จะช่วยชี้นำ และ ขับเคลื่อนให้ประเทศไทย ก้าวพ้นกับดักประเทศรายได้ปานกลาง กับดักความเหลื่อมล้ำของความมั่งคั่ง และกับดักความไม่สมดุลของการพัฒนา ทั้งในประเด็นการพัฒนาเชิงพื้นที่และการพัฒนาที่ตอบโจทย์สังคม การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันอย่างยื่น การพัฒนาคนและองค์ความรู้สู่อนาคต

อย่างไรก็ตาม ผลสำเร็จจากการดำเนินงานของ สกสว. ในปีที่ผ่านๆ มานั้น เกิดขึ้นจากการสนับสนุนเป็นอย่างดียิ่งจากระดับนโยบาย อันได้แก่ สภานโยบายการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ รัฐมนตรีกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ตลอดจนคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กสว.) และคณะกรรมการอำนวยการ สกสว. และ พลังความร่วมมือจากภาคีหน่วยงานในระบบ ววน. ร่วมขับเคลื่อน สนับสนุนส่งเสริม และขับเคลื่อนระบบ ววน. ให้เกิดการส่งมอบผลผลิต ผลลัพธ์ และผลกระทบจากงานวิจัยและนวัตกรรม เพื่อการพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้าต่อไป