วันพฤหัสบดี, 12 ธันวาคม 2024 | 4 : 00 am
วันพฤหัสบดี, 12 ธันวาคม 2024 | 4:00 am

SEAC (ซีแอ็ค) กรุยแผนธุรกิจปี 65 กับเป้าหมายอัพสกิล คนไทย 1 ล้านคนใน 3 ปี

  • ย้ำวิสัยทัศน์ Empower Lives Through Learning ด้วยบทพิสูจน์ความสำเร็จในการยกระดับศักยภาพคนและองค์กรผ่านการเรียนรู้ และการสร้าง Impact ให้เกิดขึ้นจริงทั้งในระดับสังคมและระดับประเทศ พร้อมเดินหน้ามุ่งสู่เป้าหมายอัพสกิลคนไทยมากกว่า 1 ล้านคน ภายใน 3 ปี
  • เร่งปรับสกิล 4 กลุ่มคนทำงานยุคใหม่ และ 4 กลุ่มคนองค์กร เสริมแกร่งด้วยทักษะจำเป็นและหลักสูตรคุณภาพชั้นนำระดับโลก เพื่อสร้างการทรานฟอร์มสู่ผลลัพธ์แห่งความสำเร็จ ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงในโลกการทำงานยุคใหม่

กรุงเทพฯ – วิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมากทั้งในระดับองค์กรและในระดับบุคคล สำหรับภาพรวมทิศทางเศรษฐกิจไทยปี 65 เรียกได้ว่าอยู่ในสภาวะเริ่มฟื้นตัวอย่างชัดเจนราว 3.9% ผ่านแรงขับเคลี่อนหลักมาจากการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนในประเทศ และการลงทุนกับเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อฟื้นฟูธุรกิจ เพื่อเตรียมความพร้อมให้คนไทยและองค์กรไทยเติบโตและไปต่อได้ไกลกว่าเดิม SEAC (ซีแอ็ค) เดินหน้ายกระดับคุณภาพชีวิตและสร้างโอกาสให้กับคนไทยในหลากหลายกลุ่มผ่านการเรียนรู้

ความท้าทายใหม่ที่ยากกว่าเดิม แต่ Empower Lives Through Learning คือ คำตอบ 

นางอริญญา เถลิงศรี กรรมการผู้จัดการ SEAC (ซีแอ็ค) องค์กรชั้นนำด้านการพัฒนาศักยภาพองค์กร ผู้นำและคนทุกระดับ กล่าวว่า “ความท้าทายครั้งใหญ่ในปีที่ผ่านมา SEAC (ซีแอ็ค) ได้เป็นหนึ่งในองค์กรที่ผลักดันและช่วยเหลือให้เกิดการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงองค์กรและคน ตั้งแต่ระดับปฐมภูมิ สู่องค์กรชั้นนำขนาดใหญ่ เพื่อให้คนไทยสามารถเผชิญและก้าวผ่านวิกฤตไปด้วยกัน ด้วยการสรรหาและสร้างสรรค์หลักสูตร เครื่องมือหรือนวัตกรรมที่ได้รับการพิสูจน์มาแล้วว่าสร้างผลลัพธ์ได้จริง ตลอดจนผสานการเรียนรู้เข้ากับเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เรียกว่า Truly-EdTech เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็น การเข้าไปช่วยพลิกโฉมองค์กรภาครัฐและภาคเอกชนด้วยหลักสูตรกว่า 200 หลักสูตรผ่านการยกระดับศักยภาพผู้นำและบุคลากรในองค์กร รวมถึงช่วยอัพสกิลรีสกิลทักษะการสอนให้กับครูอาจารย์กว่า 1,000 คน ตลอดจนร่วมสร้างโอกาสและยกระดับคุณภาพชีวิตนักเรียนนักศึกษาทุพพลภาพกว่า 30 คนผ่านมูลนิธินวัตกรรมทางสังคม พร้อมทั้งทำโครงการนำร่อง (Pilot Project) เพื่อเสริมสร้างศักยภาพข้าราชการจังหวัดสระบุรีกว่า 50 คนผ่านโครงการ Hi-Pro Saraburi 4.0 เป็นต้น

ทั้งนี้ SEAC (ซีแอ็ค) ได้สร้างสรรค์หลักสูตรการเรียนรู้ที่ทันต่อยุคสมัยให้กับคนไทยก้าวทันการเปลี่ยนแปลง พร้อมทั้งยังเป็นเพียงองค์กรเดียวในประเทศไทยที่ได้ลิขสิทธิ์นำหลักสูตรชั้นนำจากพาร์ทเนอร์สถาบันการเรียนรู้ชั้นนำระดับโลกเข้ามาสอนอย่างเป็นทางการ อาทิ หลักสูตรวิธีคิดเพื่อการทำงานร่วมกับผู้อื่น Outward Mindset จาก The Arbinger Institute และ หลักสูตรพัฒนาภาวะผู้นำ (Leadership Development) จาก The Ken Blanchard Companies  สำหรับ YourNextU by SEAC ปัจจุบันมียอดสมาชิกกว่า 40,000 ราย และมีกว่า 615 องค์กรที่เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการทรานฟอร์มตนเองและธุรกิจเพื่อก้าวสู่โลกอนาคต ผ่านหลักสูตรการพัฒนาบริหารทีม (E3s Leader Series – Engage Empower Execute) การพัฒนาภาวะผู้นำแบบ Agile Leader และหลักสูตรพัฒนาทักษะอื่นๆ ทั้ง Hard Skills และ Soft Skills ที่จำเป็นต่อโลกทำงานปัจจุบันและในอนาคต”

ต่อสู้กับความเชื่อ ที่ว่า “การเรียนรู้เป็นเรื่องน่าเบื่อ” 

ด้วยประสบการณ์ของ SEAC (ซีแอ็ค) ที่ศึกษาและติดตามพฤติกรรมการเรียนรู้ของคนไทยมาตลอด 30 ปี ทำให้เข้าใจถึง 5 บริบทส่วนผสมการเรียนรู้ที่เหมาะสมที่สุดกับคนไทยในยุคนี้ คือ 1) Global Content เนื้อหาคุณภาพและนำไปใช้ได้จริงจากสถาบันชั้นนำระดับโลก 2) Design การออกแบบประสบการณ์และหลักสูตรที่เหมาะสมที่สุดให้กับผู้เรียนและองค์กรธุรกิจบนบริบทของสังคมไทย 3) Technology เทคโนโลยีที่ทำให้การมีส่วนร่วมในหลักสูตรเป็นเรื่องง่าย ทำให้ผู้เรียนสนุก อยากเรียนและเรียนได้อย่างต่อเนื่อง 4) Experienced Trainers ผู้สอนที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านและรู้วิธีการถ่ายทอดความรู้อย่างมีพลัง 5) Learning Community สังคมแห่งการเรียนรู้ที่คนหลากหลายความเชี่ยวชาญ ต่างอาชีพ ต่างวัยมารวมกลุ่มเรียนรู้จากกันและกัน โดยในปี พ.ศ. 2565 SEAC (ซีแอ็ค) ยังมุ่งมั่นเดินหน้าตอกย้ำวิสัยทัศน์ Empower Lives Through Learning โดยจะโฟกัสลงไปในทุกๆ ช่วงชีวิต ทุกๆ กลุ่ม และทุกๆ สายอาชีพของคนไทยอย่างหลากหลายมากขึ้นกว่าในปีที่ผ่านมา

WHO & WHY 4 กลุ่มคนทำงานยุคใหม่ ที่ต้องรีบ “Reskill-Upskill” ให้ก้าวทันการเปลี่ยนแปลง 

นางสาวนิภัทรา ตั้งพจน์ทวีผล Product Director, YourNextU by SEAC (ซีแอ็ค) กล่าวว่า “ปัจจุบัน รูปแบบการทำธุรกิจและทักษะที่จำเป็นในการทำงานในปัจจุบันเปลี่ยนไปเร็วมาก การใช้ชุดความรู้เดิม ใช้แนวทางการทำงานแบบเดิมอาจไม่ได้ผลเหมือนเดิมอีกต่อไป เรามองเห็นช่องว่างและความท้าทายของการพัฒนาชุดทักษะใหม่ๆ ของคนหลายกลุ่มซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นกลุ่มที่มีความสำคัญต่อความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นนักเรียนนักศึกษาที่แสวงหาทางเดินและอาชีพที่ใช่ พนักงานที่ต้องการความก้าวหน้าท่ามกลางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงเร็ว เจ้าของกิจการ เพราะทุกชีวิตล้วนอยากให้ตัวเองมีอนาคตที่สดใสมากขึ้น ดังนั้น เพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง คนทำงานยุคใหม่จึงจำเป็นต้องเรียนรู้และสร้างภูมิคุ้มกันใหม่ๆ เพื่อให้พร้อมเผชิญโลกธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงสูง” 

  • กลุ่มเยาวชนที่เป็นอนาคตของชาติ (Young Generation Students) – เสริมชุดทักษะชีวิตที่จำเป็นสำหรับเด็กที่ไม่มีสอนในรั้วโรงเรียน เพื่อติดอาวุธให้เด็กไทยเลือดใหม่ (New Generations) มีพื้นฐานทักษะสำคัญและวิธีคิดที่จำเป็นพร้อมรับมือโลกอนาคตที่เต็มไปด้วยความท้าทาย
  • กลุ่มคนทำงานรุ่นใหม่ที่เพิ่งเข้ามาในตลาดแรงงาน (New Generation Workforce) – การผสมผสานทักษะจำเป็นใหม่ๆ ที่ต่อยอดและสร้างโอกาสให้เด็กให้เป็นคนที่มีศักยภาพสูง (High Performance) เพราะเมื่อเด็กกลุ่มนี้ก้าวเข้าตลาดแรงงานจะช่วยผลักดันองค์กรให้เป็น High Performance Organization เลือดใหม่จะช่วยให้เกิดไอเดียใหม่ วิธีการทำงานใหม่ๆ ในองค์กร
  • กลุ่มคนที่กำลังมองหาการเติบโตในสายอาชีพที่มั่นคง (Career Transitioning Employees) – SEAC (ซีแอ็ค) ได้คัดสรรหลักสูตรผ่านการเป็นพันธมิตรกับสถาบันชั้นนำจากต่างประเทศ อาทิ SimpliLearn ในการออกแบบหลักสูตรที่เหมาะกับโลกการทำงานปัจจุบัน สำหรับกลุ่มคนที่กำลังมองหาการเติบโตในอาชีพเดิมหรือต้องการหาอาชีพใหม่ที่มั่นคง
  • กลุ่มเจ้าของกิจการขนาดกลางและขนาดย่อม (Entrepreneurs & SMEs) – วิกฤตที่เกิดขึ้น ทำให้เกิดความสะบักสะบอมของธุรกิจ SMEs ที่ได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง SEAC (ซีแอ็ค) ต้องการช่วยองค์กร SMEs ทั้งหลายให้ผ่านพ้นวิกฤติเหล่านี้ไปให้ได้ ผ่านหลักสูตรและคอมมูนิตี้สำหรับผู้ประกอบการ SME ยุคใหม่ที่เน้นการเรียนรู้ต่อยอดประสบการณ์ทางธุรกิจระหว่างเจ้าของกิจการด้วยกัน แนวคิดและหลักสูตรการบริหารธุรกิจ รวมถึงเทคนิคการบริหารคนที่สร้างธุรกิจให้เติบโต ที่ย่อยมาแล้วจากต่างประเทศให้ตรงกับบริบทคนไทย

WHO & WHY กลุ่มคนในองค์กรที่ต้องเร่งปรับตัว ผลักดันองค์กรสู่ความสำเร็จ

นายบุญชัย พงศ์รุ่งทรัพย์ Product Director, SEAC (ซีแอ็ค) กล่าวว่า “ต่อจากนี้ องค์กรทุกขนาดกำลังเผชิญการเปลี่ยนแปลงที่มากกว่าการทรานฟอร์มองค์กรแล้ว แต่จะเป็นการทรานฟอร์มในวิธีคิด ทักษะและรูปแบบการทำงานของบุคลากรทุกระดับในองค์กร เพื่อยกระดับความสุขและประสิทธิภาพในการทำงานเพิ่มขึ้น ให้สามารถเดินหน้าสร้างผลลัพธ์แห่งความสำเร็จขององค์กร

เหตุผลที่แต่ละกลุ่มคนในองค์กรต้องปรับเพื่อเปลี่ยนให้ทันความเปลี่ยนแปลง 

  • กลุ่มคนที่มีความสามารถและมีความสำคัญขององค์กร (Talent) – ปกติแล้วนั้นในหนึ่งองค์กรจะมี Talent เพียงแค่ 10 – 15% เท่านั้นที่ช่วยขับเคลื่อนผลลัพธ์ส่วนใหญ่ให้กับธุรกิจ ซึ่งหากองค์กรเร่งความเร็วในการพัฒนาทักษะและผลิต Talent จะช่วยให้องค์กรสามารถปรับตัวตามกระแสการเปลี่ยนแปลงได้ทัน และผลักดันธุรกิจไทยให้ได้มาตรฐานระดับโลก
  • กลุ่มผู้สร้างการเปลี่ยนแปลงในองค์กร (Changemaker) – จากการผนึกพันธมิตรกับองค์กรชั้นนำของโลกอย่าง J2N Global และทักษะที่ได้ทำการพิสูจน์มาแล้วว่าสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงในองค์กรได้จริง วิ่งไปถึงวิธีคิดของคน ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงในทุกๆ เรื่อง เพราะการเปลี่ยนแปลงองค์กรนั้นจะไม่สามารถสำเร็จได้เลยหากไม่มีผู้ริเริ่ม การที่องค์กรจะสามารถเพิ่มเรื่องนวัตกรรมได้ต้องอาศัยการปรับตัวอย่างรวดเร็วให้ล้อกับกระแสการเปลี่ยนแปลง
  • ผู้นำทุกระดับขององค์กร (Leaders at all levels) – การหยอดทักษะพัฒนาให้ผู้นำที่มีลูกน้องทุกระดับขององค์กรมีภาวะผู้นำที่ถูกต้องและเหมาะสม ซึ่ง SEAC (ซีแอ็ค) ทำอย่างต่อเนื่องมากว่า 30 ปี ผ่านการออกแบบหลักสูตรที่ได้รับการพิสูจน์มาแล้ว ที่เราได้เป็นตัวแทนเจ้าแรกและเจ้าเดียวในประเทศไทย ร่วมกับสถาบันระดับโลกอย่าง The Ken Blanchard Companies ที่จะช่วยทำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และเกิดการทำน้อยแต่ได้ผลลัพธ์มาก (Do less get more)
  • ผู้บริหารองค์กรทั้งในส่วนภาครัฐและเอกชน (Executives) – SEAC (ซีแอ็ค) อยากช่วยให้ผู้บริหารและกลไก เศรษฐกิจไทยวิ่งไปข้างหน้าได้ในระดับมหภาค ผ่านหลักสูตรที่ถูกคัดเลือก เลือกสรรและออกแบบที่ทำร่วมกันกับสถาบันชั้นนำระดับโลก อาทิ Michigan’s Ross School of Business, Stanford Center for Professional Development และ IMD เป็นต้น

“SEAC (ซีแอ็ค) ต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการสร้าง “โอกาส” และยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทยมากกว่า 1 ล้านคน ภายใน 3 ปีผ่านการเรียนรู้ ให้สามารถเลือกใช้ชีวิตได้ดีขึ้น เดินต่อไปได้ไกลขึ้น มีอนาคตที่สดใสและสมบูรณ์แบบมากที่สุด ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ไหนก็ตาม ภายใต้วิสัยทัศน์ Empower Lives Through Learning” นางอริญญา กล่าวสรุป