วิกฤตการระบาดของโรคโควิด-19 ไปทั่วโลก ทำให้โลกเข้าสู่ยุคปกติใหม่ หรือ New Normal วิถีการใช้ชีวิตของชาวโลกเปลี่ยนไป ภาคธุรกิจจึงจำเป็นต้องมีการปรับตัวเพื่อให้สามารถแข่งขันได้และอยู่รอดได้ เช่นเดียวกับแบรนด์สินค้า “สกายเมด” (SKYMED) ที่ถึงเวลาต้องเปลี่ยนแปลง โดยล่าสุด ซีอีโอใหญ่ “น.อ.(พิเศษ)คัมภีร์ คัมภีรญาณนนท์” ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมืองเศรษฐกิจพอเพียง จำกัด เจ้าของผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์หรือเครื่องหมายการค้า SKYMED ประกาศพร้อมรุกตลาดการค้าโลกต่อไป โชว์แผนธุรกิจเตรียม รีแบรนด์สินค้าผลิตภัณฑ์การแพทย์ โดยยึด 3 เส้า ดันถุงมือยางการแพทย์ ควบพืชผลเกษตรและสมุนไพรไทยออกสู่ตลาดโลก
น.อ.(พิเศษ)คัมภีร์ คัมภีรญาณนนท์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมืองเศรษฐกิจพอเพียง จำกัด เปิดเผยว่า เราเตรียมรีแบรนด์ผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ “ SKYMED” ใหม่ในปี 2565 นี้ ให้เป็นสินค้าระดับพรีเมียม ปรับเปลี่ยนกล่องใหม่ให้ดีไซน์สวย คุณภาพสูง รวมถึงปรับเปลี่ยนองค์กรใหม่ โดยใช้ชื่อ “ SKYMED PREMIUM” พร้อมผลักดันนำพืชผลทางการเกษตรแบรนด์ “SKY CROP”และสมุนไพรไทยแบรนด์ “SKY HERB” ออกสู่ตลาดโลกควบคู่กับผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ของบริษัท ซึ่งหลัก ๆ เป็นถุงมือยางทางการแพทย์
“จากวิกฤตที่เกิดขึ้นทำให้ชื่อของ “SKYMED” เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก เพราะเกิดการปลอมแปลงไปทั่วโลก แม้จะเป็นชื่อในทางฉาวโฉ่ เพราะเรื่องดี ๆ โลกไม่จำ มารู้จักตอนเกิดเรื่องการปลอมแปลงแอบอ้างชื่อไปใช้ แต่วิกฤตตรงนี้มีข้อดี เพราะถ้าไม่เกิดก็จะไม่รู้ว่า เราคือ เจ้าของที่แท้จริง ใครไม่จริง เพราะเรายังอยู่ตรงนี้ ไม่ได้หนีไปไหน และวิกฤตนี้จะทำให้ลูกค้าตัวจริงเข้าติดต่อมาที่เราโดยตรง”
น.อ.(พิเศษ)คัมภีร์ กล่าวต่อว่า ชื่อ “SKYMED” จะยังใช้เหมือนเดิม ด้วยเป็นที่รู้จักในวงการแพทย์อยู่แล้ว แต่เพิ่มคำว่า “PREMIUM” เข้าไป พร้อมสร้างองค์กรใหม่เพื่อนำคนดีๆ ซื่อสัตย์สุจริตเข้ามาทำงาน การรีแบรนด์ครั้งนี้เพื่อให้เกิดภาพลักษณ์ใหม่ต่อองค์กรและผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ของบริษัท โดยเฉพาะถุงมือการแพทย์จะมีฐานการผลิตอยู่ที่ประเทศจีน มีการผลิตจาก 10 โรงงานของ 4 บริษัท ที่มีกำลังการผลิตมหาศาลและมุ่งส่งออกไปตลาดต่างประเทศโดยออกจากจีนเท่านั้น ไม่ใช่จากไทย ซึ่งเป็นการสั่งผลิต (OEM) ภายใต้ข้อตกลงคุมเข้มด้านคุณภาพจากทั้งของเราและจีน นอกจากนี้ยังมีปรับเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์เพื่อป้องกันการปลอมแปลงอย่างที่เคยเกิดขึ้นในอดีต
ทั้งนี้ SKYMED เปรียบเสมือนพระเอกจะนำสินค้าเกษตร(SKY CROP) และสมุนไพรไทย(SKY HERB)ออกขายควบคู่กันไปด้วย หรือโปรโมทไปเป็นแพ็คเกจ เช่น น้ำมันปาล์ม เนื้อแพะ สมุนไพรฟ้าทะลายโจร และอื่น ๆ ซึ่งจะนำนวัตกรรมมายกระดับคุณภาพเพื่อเพิ่มมูลค่าและผลิตเพื่อส่งออกเท่านั้น โดยทั้งหมดทำการซื้อขายผ่านพาร์ทเนอร์หรือผู้แทนการค้าที่ดีในไทยและต่างประเทศที่ได้รับการคัดเลือกเป็นหลัก โดยมี สหรัฐอเมริกา ยุโรป รัสเซียและจีน เป็นตลาดใหญ่
“การดำเนินการผลักดันสินค้าสมุนไพรไทยสู่ตลาดโลกนี้จะช่วยสร้างชื่อว่า เป็นสินค้าที่มาจากไทย ซึ่งไทยเรามีความอุดมสมบูรณ์เป็นแหล่งอาหารและสมุนไพร ที่ถือเป็นข้อได้เปรียบของไทย ขณะเดียวกันยังช่วยสร้างรายได้และอาชีพแก่ประชาชน และเกษตรกร โดยบริษัทจะสั่งซื้อและรับซื้อสินค้าจากเกษตรกร ประชาชน หรือวิสาหกิจชุมชน หรือส่งเมล็ดพันธุ์ชั้นดีให้ปลูกและช่วยรับซื้อผลผลิตเป็นล็อตใหญ่ เป็นการใช้หลักการตลาดนำการผลิต”
น.อ.(พิเศษ)คัมภีร์ ยังกล่าวอีกว่า นอกจากนี้จะเดินหน้าผลักดันแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ออกไปเป็นวงกว้าง ซึ่งมีกรอบแนวคิด มุ่งให้เกิดการพึ่งพาตัวเองได้ การไม่ประมาทและการมีภูมิคุ้มกัน และมองว่า วิกฤตการระบาดของโรคโควิด-19 ที่เกิดขึ้นยังไม่จบ เพราะไวรัสจะมีการกลายพันธุ์ไปอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นพืชผลอาหารและสมุนไพรจึงยังเป็นสิ่งจำเป็นในภาวะที่เกิดวิกฤตโรคระบาด ความเชื่อมั่นในสมุนไพรฟ้าทะลายโจร ซึ่งของเราเป็นพันธุ์ชั้นดี ที่มีสารสำคัญ แอดโดรกราโฟไลด์สูง
สำหรับรายได้จากการขายถุงมือการแพทย์ในสัญญามีจำนวนมหาศาล แต่เราต้องการขยายงานในสิ่งที่เราทำได้ ในขณะที่เรายังประสบปัญหา ซึ่งรายได้ส่วนหนึ่งเราต้องการสร้างวิทยาลัยวิถีพุทธ เพื่อช่วยสร้างเด็กรุ่นใหม่ให้เป็นเด็กดีและป้อนความรู้ให้ ช่วยพระสงฆ์โรงพยาบาล และช่วยเหลือเกษตรกร ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนี้ไม่พ้นการขายพืชผลการเกษตรและสมุนไพรเพื่อให้ย้อนกลับมาช่วยเหลือ”
“สำหรับสิ่งอื่น ๆ ที่อยู่ระหว่างดำเนินการได้แก่ การจัดพื้นที่สำหรับให้ผู้ประกอบการรายย่อย วิสาหกิจวิสาหกิจชุมชนเข้ามาขายสินค้า ตั้งอยู่ริมถนนรัชดา มีพื้นที่ประมาณ 1 ไร่เศษ มีห้องประชุม มีเต็นท์สามารถมาใช้ในการประชุม และผลักดัน “ฮับอาหารฮาราล” ในเขตประชาชื่นเพื่อสนับสนุนสินค้าอาหารของผู้ประกอบการจังหวัดชายแดนใต้” น.อ.(พิเศษ)คัมภีร์กล่าวทิ้งท้าย