วันพุธ, 22 มกราคม 2025 | 9 : 52 pm
วันพุธ, 22 มกราคม 2025 | 9:52 pm

กรมฝนหลวงฯ รับมอบการบริหาร “ท่าอากาศยานตาก” จากกรมท่าอากาศยานมุ่งพัฒนาเป็นศูนย์หลักปฏิบัติการบินดัดแปรสภาพอากาศ สู้ Pm2.5

กรมฝนหลวงฯ รับมอบการบริหาร “ท่าอากาศยานตาก” จากกรมท่าอากาศยาน มุ่งพัฒนาเป็นศูนย์หลักปฏิบัติการบินดัดแปรสภาพอากาศ สู้ Pm2.5

วันนี้ 22 มกราคม 2568 เวลา 11.00 น. ณ ห้องประชุม 115 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายอิทธิ ศิริลัทยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายดนัย เรืองสอน อธิบดีกรมท่าอากาศยาน และ นายราเชน ศิลปะรายะ รองอธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ด้านปฏิบัติการ เข้าร่วมพิธีส่งมอบ – รับมอบความรับผิดชอบการบริหารท่าอากาศยานตาก จากกรมท่าอากาศยาน ให้กับกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เพื่อให้กรมฝนหลวงและการบินเกษตรใช้ประโยชน์ในภารกิจเกี่ยวกับการปฏิบัติการฝนหลวงและการบินเกษตร พัฒนาปรับปรุงท่าอากาศยานตากให้เป็นศูนย์หลักในการปฏิบัติการบินดัดแปรสภาพอากาศ และสามารถใช้ประโยชน์พื้นที่ในท่าอากาศยานตากได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อ วันที่ 1 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา

นายอิทธิ ศิริลัทยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่าปัจจุบันปัญหาหมอกควัน ไฟป่า และฝุ่นละอองขนาดเล็ก Pm2.5 ทวีความรุนแรงมากขึ้น ทำให้ปัญหาด้านมลพิษทางอากาศของภาคเหนือรุนแรงมากขึ้นเนื่องจากส่งผลกระทบต่อประชาชนและเป็นวงกว้าง อีกทั้งการปฏิบัติการฝนหลวง ยังสามารถบรรเทา ปัญหาดังกล่าวได้ รวมไปถึงภารกิจการปฏิบัติการฝนหลวงบรรเทาปัญหาภัยแล้งให้แก่เกษตรกรในพื้นที่ภาคเหนือ ทำให้ เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2566 กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้มีหนังสือถึงกรมท่าอากาศยาน เพื่อแจ้งความประสงค์ขอ เป็นหน่วยงานใช้ประโยชน์ท่าอากาศยานตาก เพื่อการบินปฏิบัติการฝนหลวง และขอรับโอนท่าอากาศยานตาก เพื่อจะสามารถพัฒนาปรับปรุงท่าอากาศยานตาก ให้เป็นศูนย์หลักในการปฏิบัติการบินดัดแปรสภาพอากาศ การปฏิบัติการฝนหลวงบรรเทาภัยแล้งการปฏิบัติการดับไฟป่า และแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก Pm2.5 ได้อย่างมีประสิทธิภาพและคล่องตัวมากยิ่งขึ้นตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ซึ่งปัจจุบัน กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้มีการตั้งศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ จังหวัดตาก เพื่อบรรเทาปัญหาดังกล่าวอยู่แล้ว และเล็งเห็นว่าปัจจุบันท่าอากาศยานตากไม่มีเที่ยวบินพาณิชย์ ทำการบินแบบประจำมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2537 จึงเป็นการลดภาระด้านงบประมาณที่รัฐบาลต้องจัดสรรให้กรมท่าอากาศยาน รวม ไปถึงจะเป็นการให้ทางราชการสามารถใช้ประโยชน์พื้นที่ท่าอากาศยานตากได้อย่างเต็มที่และเป็นการกระจายงบประมาณที่ รัฐบาลสนับสนุนให้กรมท่าอากาศยานที่มีการให้บริการเที่ยวบินพาณิชย์ เป็นการใช้ประโยชน์โครงสร้างพื้นฐานของประเทศให้ เกิดประโยชน์สูงสุดและไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชน

ทั้งนี้กรมท่าอากาศยานไม่มีแผนการดำเนินการเพื่อบริหารจัดการในเชิงพาณิชย์ จึงทำให้การมอบหมายความรับผิดชอบ และบริหารท่าอากาศยานตากให้กับกรมฝนหลวงและการบินเกษตร จะทำให้ทางราชการสามารถใช้พื้นที่ได้เต็มศักยภาพในการพัฒนาปรับปรุงให้เป็นศูนย์หลักในการบินปฏิบัติการดัดแปรสภาพอากาศ รวมถึงจะช่วยแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก Pm2.5 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อส่งผลให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่พี่น้องประชาชนต่อไป