เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2565 มนัส เหล่าสุนทรวณิช เจ้าของFacebook: Manat laosuntornvanit ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับพันตำรวจโทไพสิทธิ์ นาคอรุณรัตน์ พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลบางยี่ขันเพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้ที่ใช้เฟสบุ๊คว่า วอลไวท์แขนหลุดไม่หยุดแค้น โดยนำรูปไปโพสยุยงปลุกปั่นให้เกิดความขัดแย้งทางการเมือง
จากกรณีที่เกิดเหตุการณ์ขึ้นเมื่อวันที่ 30 มกราคม 2565 ได้มีเหตุการเลือกตั้งซ่อมส.ส. เขตหลักสี่ และในช่วงประกาศผลคะแนนอยู่นั้นได้มีบุคคลใช้ facebook ชื่อ วอลไวท์ แขนไม่หลุดไม่หยุดแค้น โพสต์ facebook เกี่ยวกับพรรคการเมือง 2 พรรค ว่าถ้าหากพรรคการเมือง 2 พรรคเลือกตั้งแพ้จะรับประทานอื่นโดยวิธีการไลฟ์สด โดยตนเองได้นำภาพขึ้นรูปโปรไฟล์ที่ไม่ใช่ของตน และแคปหน้าจอของเจ้าของ facebook ตัวจริงขณะไลฟ์สดมาโพสต์ว่าตนเองได้ไลฟ์สดแล้ว โดนชาวเน็ตได้แชร์การโพสต์นั้นเข้าสู่สาธารณะชนเป็นจนข่าว และได้มีเพื่อนๆของเจ้าของ facebook ตัวจริงได้แชร์ลิงก์ผ่านมาให้เจ้าของเจ้าของ facebook ตัวจริงได้ทราบข่าวแล้วจึงรีบเข้าแจ้งความลงบันทึกเมื่อวันที่ 31 มกราคม ของอีกวันที่สถานีตำรวจนครบาลบางยี่ขันเวลา 20:00 นเบื้องต้นได้แจ้งกับรองผู้กำกับและลงบันทึกประจำวันเพื่อยืนยันตัวตนว่าตนเองมิได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับ facebook ของ นาย วอลไวท์ แขนไม่หลุดไม่หยุดแค้น และได้นำ facebook ตัวจริงยืนยันและได้แจ้งความเพื่อนำสืบเกี่ยวกับ IP address facebook ของ นาย วอลไวท์ แขนไม่หลุดไม่หยุดแค้น และแจ้งข้อกล่าวหาในการนำข้อมูลอันเป็นเท็จหรือข้อมูลอันไม่ใช่ของตนรูปภาพที่ไม่ใช่ของตนไปเผยแพร่สู่สาธารณะจนเกิดความเสียหายและเข้าใจผิด เบื้องต้นเจ้าของ facebook ได้แจ้งว่าตนเองได้เปิด facebook เป็นส่วนตัวมานานแล้วเนื่องจากเคยถูกคุกคามและถูกปลอมแปลง facebook แบบนี้มาแล้วจึงได้ป้องกันตัวเองไว้
หลังจากได้ทราบข่าวนี้แล้วตนจึงรีบดำเนินคดีกับบุคคลที่หลอกลวงคนอื่นเป็นตนเอง และได้โพสต์ facebook เตือนพี่น้องใน facebook ของตนเองแล้วว่าตนไม่ใช่เจ้าของเพจ facebook ของนาย วอลไวท์ แขนไม่หลุดไม่หยุดแค้น แต่ถูกก็อปรูปของตนเองไปกระทำการไม่ดี และสร้างความเสียหายให้กับตนจนกระทบกับหน้าที่การงาน และตนเองได้ออกมาไลฟ์สดชี้แจงเกี่ยวกับกรณี facebook ปลอมนั้นแล้วเรียบร้อยและวอนเตือนพี่น้องใน facebook ของตนเองแล้วว่าให้ตรวจสอบข้อมูลของบุคคลที่ควรเชื่อถือใน facebook นั้นก่อนที่จะหลงเชื่อและอาจสูญเสียทรัพย์สินหรือชื่อเสียงของตนเองได้ นายมนัส กล่าว
