ตม.จว.ปทุมธานี ขานรับนโยบายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สกัดจับแก๊งลักลอบขนแรงงานต่างด้าวเถื่อน
ตามนโยบาย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. เน้นย้ำแก้ปัญหาคนต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายและคนต่างด้าวตั้งกลุ่มแก๊งกระทำความผิดหรือประกอบธุรกิจผิดกฎหมาย และอาชญากรรมข้ามชาติ นั้น สตม. โดย พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม., พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ชัยฤทธิ์ อนุฤทธิ์ ผบก.ตม.3 ได้สั่งการให้ ตม.จว.ปทุมธานี เร่งรัดปราบปรามอาชญากรรมตามนโยบายดังกล่าวข้างต้น
สืบเนื่องจาก ตม.จว.ปทุมธานี ได้รับแจ้งเรื่องร้องเรียนว่ามีรถยนต์ขนกลุ่มคนต่างด้าวผิดกฎหมายเข้า-ออก หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ภายใน ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี จำนวนหลายครั้ง แต่ละครั้งจะมีคนต่างด้าวเข้า-ออกประมาณ 20 - 30 คน โดยพักอาศัยอยู่ประมาณ 1 - 2 วัน
ต่อมา เมื่อวันที่ 22 ม.ค.68 เวลาประมาณ 04.00 น. เจ้าหน้าที่สืบสวน ตม.จว.ปทุมธานี จึงได้วางกำลังซุ่มดู พบรถยนต์ต้องสงสัย จำนวน 3 คัน ขับเข้าไปในหมู่บ้านดังกล่าวฯ และกำลังพากลุ่มบุคคลลักษณะคล้ายคนต่างด้าวขึ้นรถ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวและเข้าตรวจสอบ โดยระหว่างนั้นมีรถยนต์ตู้สีขาว (ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน) ไหวตัวทันขับหนีออกไปได้ก่อน จึงเข้าตรวจสอบภายในบ้านหลังดังกล่าว พบ ผู้ถูกจับที่ 1 นาย ศุภณัฐ หรือ โด อายุ 31 ปี สัญชาติไทย และ ผู้ถูกจับที่ 2 นาย อดุลย์ หรือ กุ้ง อายุ 34 ปี สัญชาติไทย เป็นคนขับรถยนต์อีก 2 คันที่เหลือ และให้การว่าได้รับว่าจ้างจาก นาย บัง (ไม่ทราบชื่อสกุลจริง) ให้ขับรถยนต์ไปส่งแรงงานต่างด้าวที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ครั้งละ 15,000 บาท โดยทำงานให้นายบังมาแล้ว 2 ครั้ง ก่อนถูกจับกุม
จากนั้นได้ตรวจสอบแรงงานต่างด้าว สัญชาติเมียนมา จำนวน 18 ราย (ผู้ถูกจับที่ 3 – 20 พร้อมผู้ติดตาม จำนวน 3 ราย) พบว่า ไม่สามารถนำหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ จึงเชิญตัวมาตรวจสอบที่ ตม.จว.ปทุมธานี เพื่อตรวจสอบข้อมูลผ่านระบบสารสนเทศตรวจคนเข้าเมือง (Biometrics) ไม่พบประวัติข้อมูลการเดินทางเข้า-ออกราชอาณาจักร แต่อย่างใด และรับว่าลักลอบเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรผ่านช่องทางธรรมชาติ อ.แม่สอด จ.ตาก เมื่อ 4 วันที่ผ่านมา เพื่อมาพักคอยและรอคนมารับเพื่อจะเข้าไปทำงานที่ประเทศมาเลเซีย โดยมีเอเย่นต์ชาวเมียนมาเป็นผู้ดูแลค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด
นอกจากนี้ พบยาเสพติดประเภท 2 (เคตามีน) จำนวน 0.34 กรัม บรรจุอยู่ในถุงซิปพลาสติกใสพร้อมอุปกรณ์หลอดพลาสติกใสซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋ากางเกงของนายโด โดยนายโดให้การยอมรับว่าเป็นของตนจริง จึงได้แจ้งสิทธิและข้อกล่าวหาให้ผู้ถูกจับทราบ ดังนี้
ผู้ถูกจับที่ 1 “ผู้ใดรู้ว่าคนต่างด้าวคนใด เข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนพระราชบัญญัตินี้ ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม” และ “มียาเสพติดให้โทษประเภท 2 (เคตามีน) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
ผู้ถูกจับที่ 2 “ผู้ใดรู้ว่าคนต่างด้าวคนใด เข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนพระราชบัญญัตินี้ ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม”
ผู้ถูกจับที่ 3 – 20 “เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต”
จากนั้น ได้นำตัวผู้ถูกจับ จำนวน 20 ราย และผู้ติดตาม จำนวน 3 ราย พร้อมของกลาง จำนวน 6 รายการ ได้แก่ ยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (เคตามีน) จำนวน 0.34 กรัม บรรจุอยู่ในถุงซิปพลาสติกใส พร้อมอุปกรณ์หลอดพลาสติกใส รถยนต์ จำนวน 2 คัน และโทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.คูคต ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
