วันศุกร์, 1 สิงหาคม 2025 | 5 : 53 am
วันศุกร์, 1 สิงหาคม 2025 | 5:53 am

วช. จับมือ กทม. – สสส. – สภาลมหายใจกรุงเทพฯ และ AIT เปิดยุทธการ “ลดฝุ่นที่ปลายท่อ” ผลักดันงานวิจัยสู่ระบบคมนาคมปลอดมลพิษ

วช. จับมือ กทม. – สสส. – สภาลมหายใจกรุงเทพฯ และ AIT เปิดยุทธการ “ลดฝุ่นที่ปลายท่อ” ผลักดันงานวิจัยสู่ระบบคมนาคมปลอดมลพิษ

สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ร่วมกับ กรุงเทพมหานคร (กทม.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สภาลมหายใจกรุงเทพมหานคร และสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT) จัดกิจกรรม “นักสืบฝุ่น The series สงครามฝุ่นเมือง” ครั้งที่ 3 ภายใต้หัวข้อ “ลดฝุ่นที่ปลายท่อ” โดย ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสํานักงานการวิจัยแห่งชาติ เป็นประธานในพิธีเกิดกิจกรรม พร้อมด้วย นายพรพรหม วิกิตเศรษฐ์ ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและผู้บริหารด้านความยั่งยืนของกรุงเทพมหานคร กล่าวต้อนรับ พร้อมด้วยภาคีเครือข่าย ดร.สุพัฒน์ หวังวงศ์วัฒนา ผู้อำนวยการศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญด้านมลพิษอากาศและภูมิอากาศ (HTAPC) วช. รองศาสตราจารย์ ดร.เอกบดินทร์ วินิจกุล หัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมทรัพยากรน้ำและสิ่งแวดล้อม คณะวิศวกรรมและเทคโนโลยี สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย และ Dr. Mushtaq Memon, Regional Coordinator for Resource Efficiency in Asia Pacific United Nations Environment Programme (UNEP)  ณ Town hall L ชั้น 7 True DigitalPark East

ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสํานักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวถึง กิจกรรม “นักสืบฝุ่น The series สงครามฝุ่นเมือง” ครั้งที่ 3 ภายใต้หัวข้อ “ลดฝุ่นที่ปลายท่อ” จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากผลงานวิจัยและนวัตกรรมในการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศแบบบูรณาการ โดยมุ่งเน้นการลดไอเสียจากยานพาหนะในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีระดับฝุ่น PM2.5 สูง โดย วช. ได้สนับสนุนการพัฒนาระบบคัดกรองไอเสียรถยนต์ และรูปแบบการบริหารจัดการเพื่อลดฝุ่นอย่างเหมาะสมกับระดับมลพิษ พร้อมทั้งจัดตั้งศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญด้านมลพิษอากาศและภูมิอากาศ (HTAPC : Hub of Talents on Air Pollution and Climate) เพื่อเป็นกลไกสนับสนุนการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้เชิงวิชาการและเชิงนโยบาย และ วช. มุ่งหวังให้เกิดความร่วมมือทางวิชาการที่เข้มแข็ง การพัฒนานโยบายสาธารณะบนฐานข้อมูลวิทยาศาสตร์ และการยกระดับคุณภาพอากาศและสิ่งแวดล้อมเพื่อสุขภาวะที่ดีของประชาชนทุกคน

นายพรพรหม วิกิตเศรษฐ์ กล่าวถึง ปัจจุบันการใช้รถที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปเป็นแหล่งสำคัญของการปล่อยมลพิษทางอากาศในเขตเมือง โดยเฉพาะฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) และมลพิษทางอากาศอื่นๆ เช่น คาร์บอนมอนอกไซด์และไนโตรเจนออกไซด์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน รัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงได้ส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้ใช้รถ ทั้งการบำรุงรักษาเครื่องยนต์อย่างสม่ำเสมอ การใช้น้ำมันเครื่องที่ลดการปล่อยมลพิษ และการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ภายใต้นโยบายการพัฒนาประเทศด้วยยานยนต์ไฟฟ้าในระยะยาว กิจกรรมครั้งนี้ จึงมีเป้าหมายเพื่อจุดประกายความตระหนักรู้และความร่วมมือในการจัดการมลพิษจากแหล่งกำเนิดในเมือง โดยเฉพาะจากภาคคมนาคม ทั้งนี้ยังสอดรับกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ โดยมุ่งหวังให้กรุงเทพมหานครกลายเป็นมหานครปลอดมลพิษในอนาคต

ภายในงาน มีการนำเสนอเบาะแสต่าง ๆ ดังนี้

เบาะแสที่ 1 : เรื่อง “เข้าใจปัญหาฝุ่นจากปลายท่อ” โดย ดร.สุพัฒน์ หวังวงศ์วัฒนา ผู้อำนวยการศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญด้านมลพิษอากาศและภูมิอากาศ (HTAPC) วช.

เบาะแสที่ 2 : เรื่อง “สืบหาทางออก” โดย รองศาสตราจารย์ ดร.เอกบดินทร์ วินิจกุล หัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมทรัพยากรน้ำและสิ่งแวดล้อม คณะวิศวกรรมและเทคโนโลยี สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย

เบาะแสที่ 3 : เรื่อง “เก็บข้อมูลจากมุมมองขององค์กรระหว่างประเทศ“ โดย Dr. Mushtaq Memon, Regional Coordinator for Resource Efficiency in Asia Pacific United Nations Environment Programme (UNEP)

และยังมีการเปิดแฟ้มคดีร่วมหาข้อสรุปแนวทางการแก้ปัญหาฝุ่นจากปลายท่อ พร้อมเสวนาในหัวข้อ “ก้าวต่อไปของกรุงเทพฯ สู่ระบบขนส่งปลอดมลพิษ” โดย ดร.สุพัฒน์ หวังวงศ์วัฒนา ผู้อำนวยการศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญด้านมลพิษอากาศและภูมิอากาศ  (HTAPC) วช. รองศาสตราจารย์ ดร.เอกบดินทร์ วินิจกุล หัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมทรัพยากรน้ำและสิ่งแวดล้อม คณะวิศวกรรมและเทคโนโลยี สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย นายทศพล สุภารี รองผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร และนายปพนธนัย นันทชัชวาลย์กุล ที่ปรึกษาทางวิชาการ องค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) ประจำประเทศไทย และได้ทิ้งเบาะแสเพื่อร่วมไขปัญหาในครั้งถัดไปที่เกี่ยวกับ “ฝุ่นไม่รู้จักเขตแดน” ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 17 กันยายน 2568 ณ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ผ่านการนำองค์ความรู้ด้านงานวิจัยและนวัตกรรม ในการสร้างเมืองที่อากาศสะอาด สุขภาพดี และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมต่อไป