นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์พิเศษว่า “กรมการค้าต่างประเทศ ในฐานะหน่วยงานหลักในการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ข้าวไทยในตลาดโลก และการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ข้าวไทย ปี 2563 – 2567 ด้านการตลาดต่างประเทศ จึงได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดสินค้าข้าวในงานแสดงสินค้าอาหาร 2566 (THAIFEX – ANUGA ASIA 2023) ซึ่งตอนนี้ ได้เริ่มแล้ว และจะมีงานถึงวันที่ 27 พฤษภาคม 2566 เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ที่ดีและความโดดเด่นของข้าวไทย ทั้งในด้านรสชาติ คุณภาพมาตรฐาน และความหลากหลาย โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิไทย ที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก และเปิดโอกาสให้ผู้ผลิตข้าวคุณภาพดีจากแหล่งผลิตที่ได้รับการรับรองจากจังหวัดได้มีช่องทางจัดจำหน่ายสินค้าทั้งในและต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น”
สำหรับคูหาประชาสัมพันธ์ของกรมการค้าต่างประเทศนั้น ได้จัดกิจกรรม อธิบดีฯ เล่าให้ฟังว่า “เราจัดกิจกรรมภายใต้แนวคิด “Think Rice Think Thailand” ประกอบด้วยกิจกรรม 4 หลักใหญ่คือ (1)การจัดนิทรรศการ เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์และสร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพมาตรฐานของข้าวไทยชนิดต่างๆ อาทิ การสร้างการรับรู้เกี่ยวกับมาตรฐานข้าวไทย เครื่องหมายรับรองข้าวหอมมะลิไทย ความหลากหลายของข้าวไทย ข้าวอินทรีย์ไทย ข้อมูลเกี่ยวกับยุทธศาสตร์ข้าวไทยปี 2563 – 2567 ภายใต้หลักการ “ตลาดนำการผลิต” ที่มุ่งเน้นพัฒนาอุตสาหกรรมข้าวไทยสู่การเป็นผู้นำการผลิต การตลาดข้าวและผลิตภัณฑ์ข้าวคุณภาพของโลก (2)การสาธิตการตรวจสอบมาตรฐานข้าว โดยผู้ประกอบธุรกิจตรวจสอบมาตรฐานสินค้าที่ได้รับอนุญาตจากสำนักงานมาตรฐานสินค้า กรมการค้าต่างประเทศ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพมาตรฐานข้าวไทย โดยปีนี้ผู้ตรวจสอบมาตรฐานข้าวจากบริษัท โคเทคนา อินสเปคชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ได้มาสาธิตการตรวจสอบมาตรฐานข้าวในคูหากรมฯ (3)การสาธิตการปรุงอาหารจากข้าวไทยโดยเชฟที่มีชื่อเสียง ซึ่งได้นำข้าวไทยมารังสรรค์ให้เป็นเมนู อาหารคาวหวานให้ผู้เข้าชมงานได้สัมผัสรสชาติของข้าวไทยที่มีความหลากหลายและเป็นเอกลักษณ์ (4)การจัดแสดงตัวอย่างข้าวและจำหน่ายสินค้าของผู้ประกอบการค้าข้าวคุณภาพดีจาก 15 จังหวัด ที่เป็นแหล่งเพาะปลูกข้าวหอมมะลิและข้าวคุณลักษณะพิเศษที่สําคัญของไทยที่ได้รับการรับรองจากจังหวัด และได้รับอนุญาตให้ใช้เครื่องหมายรับรองข้าวหอมมะลิไทยจากกรมการค้าต่างประเทศ หรือได้รับเครื่องหมายรับรองคุณภาพมาตรฐานข้าวในระดับสากล ประกอบด้วยผู้ประกอบการค้าข้าวจากจังหวัดสุรินทร์นครราชสีมา บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ ร้อยเอ็ด มหาสารคาม ยโสธร อำนาจเจริญ ชัยภูมิ นครพนม ขอนแก่น สกลนคร พะเยา เชียงราย และพัทลุง
“นอกจากนั้น ยังจัดให้มีการเจรจาธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการค้าข้าวดังกล่าวและผู้นําเข้าข้าวจากต่างประเทศ เพื่อเปิดโอกาสในการขยายช่องทางการจัดจําหน่ายสินค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศให้มากขึ้น”
การคาดการณ์การส่งออกข้าวไทย ปี 2566 นั้น อธิบดีฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า “กรมฯ และสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยได้คาดการณ์ปริมาณส่งออกข้าวไทยปี 2566 อยู่ที่ 7.5 – 8.0 ล้านตัน โดย ปริมาณส่งออกข้าวไทยปี 2566 ตั้งแต่เดือนมกราคม – เมษายน ไทยส่งออกแล้วปริมาณ 2.62 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ส่งออกปริมาณ 2.29 ล้านตัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 14.41 และมีมูลค่าการส่งออก 48,612 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีมูลค่า 39,428 ล้านบาท ซึ่งตลาดส่งออกหลักของเราอันดับแรกคือ อิรัก (17.89%) รองลงมาคืออินโดนีเซีย (11.44%) แอฟริกาใต้ (9.12%) สหรัฐอเมริกา (8.72%) และ จีน (4.97%) ตามลำดับ
นอกจากนั้น กรมการค้าต่างประเทศ ยังมีแผนผลักดันการส่งออกข้าวที่จะดำเนินการต่อไปก็คือ (1) การจัดงานประชุมข้าวนานาชาติสัญจร (Thailand Rice Convention: TRC สัญจร) โดยการลงพื้นที่จัดสัมมนาให้ความรู้แก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าวเพื่อให้ทราบถึงแนวโน้มความต้องการข้าวในตลาดโลก เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรสามารถผลิตข้าวได้ตรงกับความต้องการของตลาดมากยิ่งขึ้น ตามหลักการ “ตลาดนำการผลิต” ภายใต้ยุทธศาสตร์ข้าวไทย ปี 2563 – 2567 (2) การจัดคณะผู้แทนเดินทางไปกระชับความสัมพันธ์กับประเทศคู่ค้าที่สำคัญ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลสถานการณ์ตลาดข้าวและนโยบายเกี่ยวกับสินค้าข้าว รวมทั้งเป็นการสร้างความเชื่อมั่นในศักยภาพของไทย ในฐานะผู้ส่งออกข้าวที่มีคุณภาพและมาตรฐานในตลาดข้าวโลก ได้แก่ ฮ่องกง จีน ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ ญี่ปุ่น และแอฟริกาใต้ (3) การเข้าร่วมงานแสดงสินค้านานาชาติ เพื่อประชาสัมพันธ์และผลักดันการส่งออกข้าวไทยให้เพิ่มขึ้น โดยมีแผนงาน คือ งาน China – ASEAN Expo ณ เมืองหนานหนิง สาธารณรัฐประชาชนจีน งาน Fine Food ณ นครซิดนีย์ ออสเตรเลีย งาน ANUGA ณ เมืองโคโลญจน์ เยอรมัน (4) การจัดทำโครงการประชาสัมพันธ์ข้าวไทยในกลุ่มผู้บริโภคในต่างประเทศผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย และโครงการจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์เพื่อผลักดันข้าวพื้นนุ่มของไทยสู่ตลาดโลก เพื่อสร้างการรับรู้และเพิ่มความนิยมในข้าวไทยในกลุ่มผู้บริโภคต่างประเทศให้มากยิ่งขึ้น
สุดท้ายนี้ ผมอยากเชิญชวนประชาชนและผู้บริโภคที่สนใจสินค้าข้าวไทย เข้าชมงานแสดงสินค้าอาหาร 2566 ของกรมการค้าต่างประเทศ ซึ่งเป็นการส่งเสริมและขยายโอกาสการค้าข้าวของไทย พร้อมทั้งสร้างความเชื่อมั่นและแสดงศักยภาพของไทยในฐานะผู้ผลิตและผู้ส่งออกข้าวคุณภาพของโลก เลือกซื้อสินค้าข้าวคุณภาพดีจากผู้ประกอบการ 15 จังหวัดดังกล่าวโดยตรง ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี อาคาร ชาเลนเจอร์ 3 หมายเลขคูหา G29 และ G45 โดยวันที่ 23 – 26 พฤษภาคม 2566 จะเป็นวันเจรจาธุรกิจ และวันที่ 27 พฤษภาคม 2566 จะเป็นวันจำหน่ายปลีกให้ประชาชนทั่วไป ผู้ที่สนใจเข้าชมงานฯ สามารถลงทะเบียนล่วงหน้า ได้ที่ www.thaifex-anuga.com