‘หูหนาน’ พัฒนาเศรษฐกิจควบคู่อนุรักษ์ป่า อยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างยั่งยืน
เกษตรกรในมณฑลหูหนานทางตอนกลางของจีน กำลังเร่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจป่าไม้รูปแบบใหม่ โดยมุ่งใช้ประโยชน์จาก ‘เศรษฐกิจป่าไม้ที่ไม่พึ่งการตัดไม้’ (Non-timber forest-based Economy) เช่น อุตสาหกรรมหน่อไม้ สมุนไพรจีน น้ำมันเมล็ดคามีเลีย หรือเมล็ดชา เปลี่ยนความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าให้เป็นรายได้ สร้างงาน และผลักดันการพัฒนาชนบทอย่างยั่งยืน
ที่เมืองหวยฮว่า เครื่องจักรภายในโรงงานแปรรูปหน่อไม้ของบริษัท Hunan Green Land High-tech Agricultural and Forestry Development Co., Ltd ยังคงทำงานเต็มกำลัง เพื่อแปรรูปหน่อไม้ให้เป็นผลิตภัณฑ์ส่งจำหน่ายไม่เพียงแค่ตลาดท้องถิ่น แต่ยังรวมไปถึงเซี่ยงไฮ้ มณฑลกวางตุ้ง และภูมิภาคอื่นๆ
พนักงานทำงานที่โรงงานแปรรูปหน่อไม้ของบริษัท Hunan Green Land High-tech Agricultural and Forestry Development Co., Ltd (พีเพิลส์ เดลี่ ออนไลน์)
หยาง เผ่ยหรู ผู้บริหารบริษัทฯ เปิดเผยว่า “ปัจจุบัน บริษัทได้เช่าพื้นที่ป่าหน่อไม้ขนาด 50,000 หมู่ (ราว 3,333 เฮกตาร์) เพื่อสร้างฐานการผลิตครบวงจร มีโรงงานแปรรูปหลัก 10 แห่ง และโรงงานขั้นสูง 1 แห่ง รวมถึงร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเกษตรหูหนานจัดตั้ง ‘สวนเทคโนโลยีระดับชาติด้านหน่อไม้’ ด้วยคำสั่งซื้อจำนวนมากในปีนี้ คาดการณ์ว่ายอดขายจะสูงถึง 80 ล้านหยวน
ความสำเร็จของหยางได้รับแรงหนุนมาจากมาตรการของอำเภอฮุ่ยถง ในปี 2021 รัฐบาลท้องถิ่นได้ผนวกรวมกรรมสิทธิ์การใช้ผืนป่า สิทธิ์ครอบครองป่า และกรรมสิทธิ์การใช้ป่าไม้เข้าด้วยกัน พร้อมออกใบรับรองอสังหาริมทรัพย์สีเขียวที่สามารถซื้อขายและโอนกรรมสิทธิ์ได้ ซึ่งสามารถใช้เป็นหลักประกันเงินกู้ธนาคาร ช่วยให้วิสาหกิจและเกษตรกรได้รับประโยชน์จากนโยบายเศรษฐกิจป่าไม้ที่ไม่พึ่งการตัดไม้
“มาตรการนี้สร้างประโยชน์อย่างแท้จริงให้กับองค์กรต่างๆ” หยางกล่าว พร้อมระบุว่า บริษัทของเขาได้นำเงินกู้ไปซื้อเครื่องจักรบรรจุภัณฑ์อัตโนมัติเต็มรูปแบบสี่เครื่อง และสร้างระบบฆ่าเชื้อขนาดใหญ่ สายการผลิตแช่แข็ง และระบบจัดเก็บความเย็นขนาด 10,000 ลูกบาศก์เมตร ส่งผลให้ปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้นจาก 10,000 ห่อต่อวัน เป็น 100,000 ห่อต่อวัน
หลี่ เชา รองเลขาธิการคณะกรรมการพรรคประจำอำเภอฮุ่ยถง กล่าวว่า “หน่อไม้ฮุ่ยถง ได้รับการรับรองเป็นผลิตภัณฑ์บ่งชี้ทางภูมิศาสตร์แห่งชาติ โดยตั้งแต่ปี 2024 เป็นต้นมา อำเภอมีหน่วยงานตลาดที่เกี่ยวข้องกับหน่อไม้เพิ่มขึ้น 25 แห่ง และวิสาหกิจเพิ่มขึ้น 10 แห่ง รัฐบาลท้องถิ่นกำลังมุ่งมั่นสร้างเครือข่ายอุตสาหกรรมหน่อไม้มูลค่า 1 หมื่นล้านหยวน”
ฐานเพาะปลูกสมุนไพรอิ๋นหยางฮั่ว ในหมู่บ้านต้าพอ
อำเภอฮุ่ยถง เมืองหวยฮว่า มณฑลหูหนาน (พีเพิลส์ เดลี่ ออนไลน์)
ในอีกหลายพื้นที่ของมณฑล เกษตรกรหันมาปลูกสมุนไพรจีนเชิงอุตสาหกรรม เช่น อิ๋นหยางฮั่ว ฝูหลิง และหวงจิง ซึ่งเป็นพืชที่มีความต้องการสูงในตลาดยาและอาหารเพื่อสุขภาพ ชาวบ้านจำนวนมากเข้ามาเป็นแรงงานเพาะต้นกล้า ดูแลแปลงปลูก และเก็บเกี่ยว ทำให้หลายหมู่บ้านมีรายได้เสริมจากการจำหน่ายวัตถุดิบสมุนไพร บางแห่งมียอดสั่งจองเต็มตั้งแต่ก่อนฤดูเก็บเกี่ยว
ด้านอุตสาหกรรมน้ำมันเมล็ดคามีเลีย หรือเมล็ดชา มณฑลหูหนานถือเป็นแหล่งผลิตใหญ่ที่สุดในประเทศ ทั้งในแง่ของพื้นที่ปลูกและผลผลิตรวม ขณะนี้หลายสวนได้พัฒนาระบบบริหารจัดการแบบดิจิทัล ใช้เทคโนโลยี 5G ควบคุมระบบให้น้ำ–ปุ๋ย อุณหภูมิ และความชื้นแบบอัตโนมัติ ทำให้ผลผลิตสม่ำเสมอและคุณภาพดีขึ้น โรงงานสกัดน้ำมันบางแห่งนำสายการผลิตอัจฉริยะมาใช้ตั้งแต่การคัดเลือกเมล็ดจนถึงบรรจุภัณฑ์ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุน
เมล็ดคามีเลียที่ฐานเพาะปลูกตำบลป่านซาน เมืองหลี่หลิง มณฑลหูหนาน (พีเพิลส์ เดลี่ ออนไลน์)
ถึงปี 2024 ‘เศรษฐกิจป่าไม้ที่ไม่พึ่งการตัดไม้’ ของมณฑลหูหนาน ใช้พื้นที่ป่ากว่า 36.1 ล้านหมู่ ผลิตอาหารจากป่า 12.7 ล้านตัน สนับสนุนการจ้างงานกว่า 3 ล้านคน และเพิ่มรายได้เฉลี่ยให้เกษตรกรปีละกว่า 2,800 หยวน
ความก้าวหน้านี้ยืนยันว่า การอนุรักษ์ป่าและการสร้างรายได้สามารถดำเนินไปพร้อมกันได้อย่างกลมกลืน เปลี่ยนผืนป่าให้เป็นแหล่งอาหาร แหล่งยาสมุนไพร พร้อมขับเคลื่อนการฟื้นฟูชนบทและพัฒนาเศรษฐกิจสีเขียวในระยะยาว
ที่มา People’s Daily Online
