สำหรับหนึ่งในผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ กรุงเทพมหานคร หนึ่งคนที่น่าสนใจและน่าจับตามองก็คือ “ประพฤติ ฉัตรประภาชัย” ผู้สมัคร ส.ส. เขต 14 บางกะปิ-วังทองหลาง (เฉพาะแขวงคลองเจ้าคุณสิงห์) กรุงเทพฯ นักการเมืองรุ่นใหม่คนนี้ เป็นคนหนึ่งที่มีประสบการณ์แบบอัดแน่น ไม่ว่าจะทางด้านกฎหมาย ด้านการบริหาร เพราะเคยผ่านงานทั้งภาครัฐบาลและเอกชน มากว่า 15 ปี
โดย“ประพฤติ ฉัตรประภาชัย”หรือที่เรียกกัน “อาจารย์อุ๋ย”นับว่าเป็นนักการเมืองหน้าใหม่ ที่น่าสนใจของพรรคฯ เป็นนักกฎหมายรุ่นใหม่ ที่มีดีกรีการศึกษานิติศาสตรบัณฑิต จากธรรมศาสตร์ เนติบัณฑิตไทย และนิติศาสตรมหาบัณฑิตจาก Cornell Law School และ Wisconsin-Madison ประเทศสหรัฐอเมริกา และเคยได้รับทุนจากรัฐบาลญี่ปุ่นไปทำวิจัยด้านกฎหมายหมายที่ Kyushu University ประเทศญี่ปุ่น และหลังจากที่จบการศึกษาก็ได้เข้าทำงานเป็นอาจารย์สอนกฎหมายที่มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ และบรรยายให้กับสถาบันการศึกษาและหน่วยงานอีกหลายแห่ง เช่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ มหาวิทยาลัยศิลปากร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี สำนักงานปลัดกรุงเทพมหานคร สถาบันพัฒนาบุคลากรด้านดิจิทัลภาครัฐ ฯลฯ รวมถึงรับผิดชอบงานด้านที่ปรึกษากฎหมายและ อนุกรรมการในระดับนโยบายให้กับหน่วยงานหลายอีกแห่ง เช่น กสทช. ราชวิทยาลัยจักษุแพทย์ แพทยสภา องค์การอาหารและยา สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สถาบันอนุญาโตตุลาการแห่งประเทศไทย ฯลฯ รวมทั้งเคยเป็นหนึ่งในคณะผู้แทนนครรัฐวาติกันไปประชุมคณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติอีกด้วย ปัจจุบันนั่งเป็นประธานกรรมการบริษัท Praphrut & Partners จำกัด ซึ่งเป็น consulting firm ด้านกฎหมาย รับผิดชอบงานด้านกฎหมายให้กับหน่วยงานเอกชนหลายแห่ง เช่น เซ็นทรัล, โรบินสัน, Tops, Matsumoto Kiyoshi ฯลฯ
สำหรับบทบาทในฐานะนักการเมืองนั้น ถือเป็นบทบาทใหม่ของ อ. ประพฤติ แต่แม้จะเป็นสนามใหม่ ก็ไม่เป็นอุปสรรค เพราะมาพร้อมด้วยความตั้งใจ จริงใจ ที่จะนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้จากการศึกเล่าเรียนในต่างประเทศและจากการทำงานในหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เข้ามาพัฒนาพื้นที่บางกะปิ-วังทองหลาง กรุงเทพมหานคร และประเทศไทย ให้เจริญก้าวหน้าทัดเทียมอารยประเทศ
อาจารย์ประพฤติ ฉัตรประภาชัย เปิดเผยว่า การลงสนามการเลือกตั้งในครั้งนี้ แม้ว่าจะเป็นบทบาทใหม่ของตน แต่ก็ขอยืนยันว่าตนพร้อมจะทำงานให้กับประชาชนทุกคน โดยชู 5 นโยบายเด่น ดังนี้
- ออกกฎหมายอากาศสะอาด หรือ Clean Air Act ซึ่งจะบูรณาการกลไกทางกฎหมายของทุกหน่วยงานเพื่อจัดการกับปัญหาฝุ่น PM 2.5 โดยเร็วที่สุด นำโดย ศ.ดร. สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ (ดร. เอ้)
- สร้างคน สร้างชาติ ด้วยการศึกษา นอกจากนโยบายเรียนฟรีจนถึงระดับปริญญาตรีในสาขาที่ขาดแคลนแล้ว จะต่อยอดไปถึงการศึกษาตลอดชีวิต ผลักดันให้มีศูนย์การเรียนรู้แบบออนไลน์และออฟไลน์ สำหรับพี่น้องประชาชนที่สนใจจะเข้ามาฝึกทบทวนหรือยกระดับทักษะอาชีพ โดยใช้คนในชุมชนที่เชี่ยวชาญเป็นผู้อบรมและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้
- ส่งเสริมการสร้างผลิตภัณฑ์และบริการชุมชนที่มีอัตลักษณ์ความเป็นพหุวัฒนธรรมของเขตบางกะปิ-วังทองหลาง ซึ่งเป็นชุมชนใหญ่ที่ประกอบด้วยหลายวัฒนธรรม เช่น มุสลิม ภาคใต้ ภาคกลาง ภาคอีสาน คนไทยเชื้อสายจีน ฯลฯ และต่อยอดไปสู่ระดับโลกด้วยนโยบายผลักดัน Soft Power ของพรรคประชาธิปัตย์ นำโดย มาดามเดียร์ วทันยา บุนนาค
- ผลักดันให้รถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันออกที่สร้างเสร็จแล้วเดินรถได้โดยเร็วที่สุด เพื่อให้พี่น้องประชาชนสามารถเก็บเกี่ยวประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่สูญเสียไปจากการก่อสร้างเป็นเวลาถึง 5 ปี และจากปัญหาโควิด 19
- ปรับปรุงกฎหมายเพื่อรองรับ Cyber Bullying เพราะในขณะนี้ต้องใช้ประมวลกฎหมายอาญากับ พรบ.คอมพิวเตอร์เป็นหลัก ซึ่งยังมีช่องโหว่ในการจัดการกับผู้กระทำผิด แต่มีข้อแนะนำว่าเมื่อเกิดเหตุการถูกล่วงละเมิดทางโลกออนไลน์ ผู้ถูกละเมิดต้องมีสติรับรู้ ไม่จมดิ่งกับความรู้สึกลบ ต้องแคปหน้าจอ URL นำไปแจ้งความที่สถานีตำรวจใกล้บ้าน หรือสำนักงานตำรวจไซเบอร์ซี่งมีอำนาจครอบคลุมทั่วประเทศ ที่สำคัญคือป้องกันตัวเอง เริ่มต้นที่ตัวเอง รู้เท่าทัน
“เมื่อคนอื่นเบื่อการเมือง เขาเลือกที่จะไม่สนใจ แต่เมื่อผมเบื่อการเมือง ผมเลือกที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงมัน” อาจารย์ประพฤติกล่าว